
Miscellaneous | |
เรื่องจิปาถะของการถ่ายภาพสำหรับช่างภาพใหม่ การถ่ายรูปอาจจะคิดเพียงแค่ว่ายกกล้องขึ้นเล็งภาพแล้วกดชัตเตอร์ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ถ้าจะยกระดับการถ่ายภาพหรือสนใจที่จะเป็นช่างภาพมืออาชีพ ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนอีกหลายอย่าง เริ่มจากการหาหัวเรื่องที่จะถ่าย จัดองค์ประกอบของภาพ รอแสงที่เป็นใจ ฯลฯ ข้อความต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการถ่ายภาพ
รู้จักองค์ประกอบของภาพก่อนเริ่มทำการถ่ายภาพควรศึกษาการจัดองค์ประกอบของภาพ กล่าวคือ การกำหนดจุดสนใจของภาพ ซึ่งอาจเป็นวัตถุหรือบุคคล ฯลฯ ที่จะเป็นจุดที่ให้ความสำคัญที่สุด และเป็นจุดที่คมชัดที่สุดของภาพ จุดสนใจแทนที่จะให้อยู่ตรงกลางของภาพ ก็ให้จัดอยู่ในหนึ่งในสี่จุดของกฎสามส่วน (Rule of Thirds) ลองใช้เส้นนำสายตาซึ่งอาจจะเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งของถนน สายน้ำ แนวต้นไม้ ฯลฯ นำไปสู่จุดสนใจ หรือจะลองทำภาพเป็นแบบมีมิติ ลองสำรวจรอบๆ ถ่ายจากมุมสูงบ้าง มุมเงยขึ้นบ้าง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: องค์ประกอบของภาพ
แสงที่ดีหัวใจของการถ่ายภาพอยู่ที่ว่ามีแสงที่เพียงพอสำหรับการถ่ายหรือไม่ การที่มีแสงน้อยไปภาพจะออกมามืด หากแก้ไขโดยการเปิดความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ เพื่อรับแสงเพิ่มก็จะทำให้ภาพไหว แต่หากตั้งความไวแสงของหน่วยรับภาพสูงขึ้นก็จะทำให้เกิดเม็ดสี ภาพที่มืดแม้จะใช้โปรแกรมตกแต่งภาพในภายหลังก็แก้ได้เพียงระดับหนึ่งและมักจะได้ภาพคุณภาพต่ำ ในทางตรงข้ามหากจุดที่จะถ่ายภาพมีแสงที่แรงมาก ก็จะพบเงาดำมืดที่ขาดรายละเอียดให้เห็น ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้หากเรามีอุปกรณ์เกี่ยวกับแสง
หากใช้แสงธรรมชาติ ช่วงเวลาที่แสงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพนอกสถานที่คือหลังพระอาทิตย์ขึ้นและก่อนพระอาทิตย์ตก จะได้แสงที่อ่อนและเงาของวัตถุต่างๆ ทอดยาว แสงที่แรงกล้าในช่วงระหว่างวันก็สามารถนำมาใช้ในภาพที่เล่นกับลักษณะและรูปแบบของเงาที่เกิดขึ้นก็ได้
เตรียมอุปกรณ์เกี่ยวกับแสงการอาศัยแสงธรรมชาติอย่างเดียวอาจทำให้การถ่ายภาพถูกจำกัด อุปกรณ์ที่ควรมีอย่างน้อยที่สุดคือฉากสะท้อนแสง ซึ่งบางรุ่นสามารถม้วนเก็นได้ ใช้สำหรับสะท้อนแสงส่องไปยังบริเวณที่มืดของแบบทำให้เห็นรายละเอียดบริเวณนั้นมากขึ้น หากไม่ได้พกติดตัวก็ใช้กระดาษขาวแผ่นใหญ่แทนได้ แฟลชก็เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มาก หากสามารถซื้อแฟลชที่ทำงานได้โดยแยกออกจากตัวกล้องจะช่วยให้เราสามารถวางตำแหน่งแสงได้ แต่ถ้าหากเป็นแฟลชที่ติดกับตัวกล้อง เวลาถ่ายแสงจะเข้าด้านหน้าของแบบทำให้ภาพของแบบแบนขาดมิติ ควรใช้อุปกรณ์กระจายแสงติดที่หัวแฟลชจะทำให้แสงนุ่มนวลขึ้น
รู้วิธีใช้กล้องก่อนนำกล้องไปใช้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องตัวนั้นว่ามีขีดความสามารถขนาดไหน ช่างภาพก็ควรเข้าใจการตั้งค่าต่างๆ ของกล้องและความสัมพันธ์ของค่าเหล่านั้น ช่างภาพมืออาชีพจะไม่ค่อยใช้โหมดอัตโนมัติ จะมีก็เลือกตั้งค่าบางค่าได้เองแล้วให้กล้องคำนวณหาค่าอื่นที่เหมาะสมให้ ซึ่งมีโหมดตั้งค่ารูรับแสง โหมดตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ และโหมดตั้งค่าได้ทั้งสอง ช่างภาพจะมีความอิสระในการตั้งรูรับแสงหรือความเร็วชัตเตอร์สำหรับภาพแต่ละประเภทที่จะถ่าย การถ่ายภาพที่สว่างมาก เราควรลดทอนปริมาณแสงที่จะเข้าสู่หน่วยรับภาพน้อยกว่าปกติ (อาจจะปรับรูรับแสงให้เล็กลงหรือเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ให้สูงขึ้น) ในขณะเดียวกันภาพที่มืดมากควรชดเชยเพิ่มปริมาณแสงเข้าหน่วยรับภาพให้สูงขึ้น ทั้งนี้กล้องบางรุ่นอาจจะสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ สำหรับกรณีเหล่านี้ได้โดยอัตโนมัติ
พกขาตั้งกล้องขาตั้งกล้องช่วยยึดตัวกล้องไม่ให้เคลื่อนไปมา ควรมีไว้ใช้แม้แต่การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ซึ่งต้องการให้ทุกส่วนมีความคมชัดเมื่อขยายภาพให้ใหญ่ การถ่ายภาพในที่มืด และการถ่ายภาพกลางคืนก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้อย่างยิ่ง ควรเลือกใช้ขาตั้งกล้องที่แข็งแรงรองรับน้ำหนักตัวกล้องและเลนส์ได้โดยไม่สั่นหรือเคลื่อนไหว ขาที่แข็งแรงน้ำหนักเบาจะมีราคาที่สูงกว่าขาที่มีน้ำหนักมาก อนึ่งในปัจจุบันมีกล้องหลายรุ่นที่ถ่ายภาพในที่มืดโดยไม่ต้องใช้ขาตั้ง หลักการคือถ่ายภาพด้วยความเร็วปกติหลายๆภาพมาซ้อนกัน โดยภาพแต่ละภาพเก็บรายละเอียดที่โทนแสงต่างกัน เมื่อมารวมเข้าด้วยกันก็จะให้รายละเอียดที่ครบถ้วน
การถ่ายภาพวาดบนผนังการใช้กล้องถ่ายภาพวาด โปสเตอร์ ภาพผนัง ควรเตรียมแสงให้สว่างสม่ำเสมอทั่วกันทั้งบริเวณพื้นที่ที่จะปรากฏบนภาพ ควรมีแสงจากสองด้าน ข้างซ้ายและขวาของกล้อง เลนส์ที่เหมาะสมควรเป็นเลนส์ 50มม.- 80มม. ที่จะไม่ทำภาพบิดเบี้ยวที่ขอบภาพ และให้สว่างเท่ากันทั้งกลางภาพและขอบภาพ ให้ระวังแสงไฟอย่าให้สะท้อนภาพต้นแบบเข้ากล้อง ควรใช้ขาตั้งกล้องช่วย ตั้งกล้องแนวกึ่งกลางของภาพต้นฉบับและตั้งให้ระนาบของกล้องขนานกับภาพ ก่อนถ่ายจริงถ้ามีกระดาษขาวปูเต็มพื้นที่ได้ก็จะดี ใช้ถ่ายทดสอบความขาวของภาพที่กล้องถ่ายได้และดูความทั่วของแสง อาจมีการปรับหลอดสีของแหล่งกำเนิดแสง หรือจะปรับค่า White Balance เพื่อช่วยให้ได้ภาพสีขาวที่บริสุทธ์ เมื่อพร้อมจึงทำการถ่ายภาพ
เพิ่มเครื่องมือที่เหมาะสมช่างภาพมือใหม่อาจใช้กล้องที่มีราคาประหยัด หน่วยรับภาพไม่ใหญ่มาก ถอดเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ เมื่อฝึกถ่ายได้ระยะหนึ่งก็ควรให้รางวัลแก่ตนเองโดยเริ่มสะสมอุปกรณ์เพิ่ม เริ่มจากหากล้องที่มีหน่วยรับภาพที่ใหญ่ (ขนาด APS ขึ้นไป) สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ นอกจากเลนส์ปกติที่ติดมากับกล้องแล้ว ควรสะสมเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้าง และเลนส์ถ่ายภาพระยะไกล และอุปกรณ์อื่นๆ ชิ้นไหนก่อนหรือหลังก็แล้วแต่ประเภทของภาพที่ต้องการจะถ่าย
ตกแต่งภาพหลังการถ่ายสิ่งที่ช่างภาพยุคใหม่ควรต้องมีความรู้คือการใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ อย่างเช่น โปรแกรม Photoshop โปรแกรม Lightroom ภาพที่ถ่ายจากกล้องไปแล้วมักต้องอาศัยการตกแต่งภาพมากบ้างน้อยบ้าง ตั้งแต่การปรับความสมดุลของแสงสี ไปถึงการตัดต่อภาพ สิ่งที่ควรระลึกไว้คือ ไม่ควรปรับภาพจนดูผิดธรรมชาติ (ยกเว้นภาพที่จงใจทำ) การปรับแก้บริเวณสว่าง/มืดให้คำนึงถึงทิศทางที่มาของแสง ภาพจึงออกมาสมจริง
แสดงฝีมือหลังจากเรียนรู้และฝึกถ่ายสักระยะหนึ่ง ก็ได้เวลาแสดงผลงาน โดยสร้างแฟ้มผลงานและลงในเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งก็อาจทำให้มีผู้สนใจติดตาม เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งหากมีความชอบก็สามารถยึดเป็นอาชีพเสริมได้
อ้างอิง : https://www.format.com/magazine/resources/photography/how-to-take-professional-photos
|